movies hd free กำพร้า 4 คนถูกเก็บมาฝึกหัดเพื่อเป็นมือสังหารเหล่าคนพาลโดยชายที่พวกเขาเรียกว่าบิดา แม้กระนั้นแล้วเมื่อบิดาอยากได้วางมือแล้วก็ถูกสั่งเก็บ อันตรายก็คืบคลานมาสู่พวกเขาโดยกลุ่มมือสังหารอีกกรุ๊ปที่เต็มไปด้วยสรรพาวุธรวมทั้งความทารุณโหดร้าย
หากแม้เรื่องย่อจะมองเป็นหนังเครียดโหดเหี้ยมเลือดสาดจนถึงชักชวนรำลึกถึง movies hd free ภาพครั้งที่ผู้กำกับ ทิโม ทจาห์ยานโต (Timo Tjahjanto) เคยทำไว้ภายในหนัง ‘The Night Comes for Us’ (2018) ที่ลงทางเน็ตฟลิกซ์ด้วยเหมือนกัน โดยยังไม่ต้องไม่นับถึงผลงานก่อนหน้าที่เป็นหนังบู๊สายชั่วร้ายเกือบ 100%จนกระทั่งขนาดเคยร่วมงานกับ กาเรธ อีแวนส์ (Gareth Evans) ผู้กำกับ ‘The Raid: Redemption’ (2011) แล้วก็ผู้แสดงสายบู๊ระดับนานาชาติชาวอินโดอย่าง อิโก อูไวส์ (Iko Uwais) มาแล้ว
แม้กระนั้นเอาเข้าจริงคราวนี้ movies hd free ทจาห์ยานโตได้ทดลองทำอะไรใหม่ๆ
อย่างน่าดึงดูดใน ‘The Big 4’ โน่นเป็นปรับมู้ดหนังบู๊ของเขาให้มองซีเรียสลดลง มีความยิ้มและก็เต็มไปด้วยผู้แสดงที่เอกลักษณ์จัดจ้าเกินจริง กระทั่งเชิญรำลึกถึงครั้งที่ไทยมีหนังอย่าง ‘7 ต่อสู้’ (2545) หรืออย่าง ‘มือสังหาร/โลก/พระ/จัน’ (2554) ที่ออกแฟนตาซีนิดๆรวมทั้งหนังบู๊ไทยเรื่องอื่นที่ออกมาโลดแล่นแสดงความเป็นเยี่ยมของเจ้าหนังบู๊อาเซียนนับตั้งแต่ ‘องก์บาก’ (2546) ได้เปิดหน้าประวัติศาสตร์ไว้
หนังเล่าราวของ โตปัน เจงโก้เก๋ อัลฟ่า แล้วก็เปลอร์ ที่เปิดตัวด้วยปฏิบัติงานกำจัดกลุ่มค้าอวัยวะมนุษย์ได้อย่างน่าเร้าใจ เป็นฉากที่ให้มองเห็นติดอยู่แรกเตอร์ของแต่ละผู้แสดงได้อย่างแจ่มแจ้ง โตปันเป็นหัวหน้าทีมที่เก่งและก็มีมุมกวนบาทา เจงเก๋เป็นสไนเปอร์ที่เชื่อในพลังจักระ อัลฟ่าสาวอันเดียวในกลุ่มเป็นพวกงามขาโหดเหี้ยม รวมทั้งเปลอร์น้องเล็กของกลุ่มที่มองอ่อนแอสุดแล้วก็กวนสุดปฏิบัติหน้าที่สายลอบเข้าไปสืบข้อมูล
ฉากเปิดนี้น่าดึงดูดมากมายเพราะเหตุว่าท movies hd free จาห์ยานโตได้ทำให้มองเห็นถึงความสามารถสำหรับในการเพิ่มเติมการออกแบบการต่อสู้ที่ไม่ด้อยไปกว่าหนังฮอลลีวูด การควบคุมภาพที่ไปร่วมกันกับการต่อสู้ และก็การเล่าเรื่องที่มีลูกล่อลูกชนรื้นเริงไม่มีเบื่อ
แถมโปรดักชันรวมทั้งซีจีก็จัดหนักจัดชั่วร้ายหนำใจทั้งยังหัวกระเด็น เลือดสาด เกินเบอร์หนังบู๊ตลกขบขันไปๆมาๆก แม้กระนั้นผู้ชมก็ยังรู้สึกผูกพันกับกลุ่มมือสังหารนี้ได้อย่างเร็วด้วยลักษณะท่าทางพวกเขาที่ตลกโปกฮาเข้าถึงง่ายนั่นเอง
หนังเข้าเส้นเรื่องหลักอย่างเร็ว แต่ว่าจำเป็นต้องกล่าวว่าเรื่องราวมันนั้นค่อนข้างจะจืดชืดแล้วก็เชยเอาพอควร พูดได้ว่าแทบจะไม่มีอะไรใหม่น่าดึงดูดเลย เป็นบิดาที่รับเลี้ยงพวกกลุ่มมือสังหารถูกสั่งเก็บรวมทั้งพวกเขาก็สลายกลุ่มไปซ่อนตัวหลบซ่อนเป็นเวลานานกว่า 3 ปี จนกว่าบุตรสาวแท้ๆของบิดาที่เป็นตำรวจอย่าง ดีนา ระแคะระคายการเสียชีวิตของบิดาแล้วออกตามหาพวกเด็ก 4 คนภายในรูปถ่ายเก่าว่าเชื่อมโยงเช่นไรกับความลับของบิดา แล้วก็โตปันเป็นคนแรกที่คุณเจอพร้อมด้วยที่มีกรุ๊ปมือสังหารออกตามล่าคุณ ทำให้ทั้งยังโตปันรวมทั้งดีนาจำเป็นต้องออกตามหาสมาชิกผู้ที่เหลือเพื่อสู้กลับ
เป็นเรื่องราวทายใจได้เกือบจะหมดแม้กระนั้นก็พอเพียงกับการดำเนินเรื่องให้ใส่ฉากแอ็กชันขนาดใหญ่หลายฉากลงไป ในเวลาเดียวกันก็หยอดมุกในเนื้อหาลงไปให้ยิ้มได้เรื่อยแต่ว่าก็จำเป็นต้องสารภาพว่าถึงจุดหนึ่งผู้กำกับก็เริ่มคุมประสิทธิภาพของหนังให้เด็ดขาดเท่าฉากเปิดตัวมิได้ หลายฉากฝั่งตัวร้ายโผล่มาไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ยแบบจู่ๆ
ก็โผล่มาจากข้างหลังเก้าอี้ริมทะเลที่ธรรมดาคนก็คงจะไม่หลบซ่อนอยู่ หรือตัวร้ายมาตายแบบทึ่มๆหรือยืนมองรถยนต์ผู้แสดงนำชายวิ่งเข้ามาถึงยังหน้าบ้านถึงค่อยยิงทั้งๆที่มองเห็นมาแต่ไกลเป็นร้อยเมตร ฯลฯ
นอกนั้นที่เคยละลานตากับการออกแบบการต่อสู้แล้วก็มุมกล้องถ่ายรูปก็เริ่มจืดชืดลง เย็นชามากขึ้นเรื่อยๆ เสมือนคนทำก็หมดไอเดียแล้วเช่นกันเอาเพียงแค่เหตุการณ์ดันนักแสดงไปให้ถึงฉากใหญ่ท้ายที่สุดให้ได้ รวมทั้งว่ากันตามจริงฉากในที่สุดก็มิได้ดึงอารมณ์ร่วมผู้ชมให้พุ่งสูงมากขึ้นได้อย่างที่จะต้องเป็น มีที่ดีบ้างได้แก่ฉากพลซุ่มยิงสู้กับบาซูก้าที่ครบรสทั้งยังเซอร์ไพรส์ ตลกขบขัน หนำใจ แล้วก็ภาพชั่วร้ายๆแต่ว่าโดยรวมนี่ก็เป็นหนังที่ระดมฉากบู๊มาได้หนำใจมากเรื่องหนึ่ง เพียงแค่ยังคุมมาตรฐานการดึงอารมณ์ได้แตกต่างกันนักตลอดเรื่อง
มอง ‘The Big 4’ และก็รู้เรื่องได้หากคนประเทศไทยจะถูกใจ
เพราะว่ามันเป็นหนังแบบที่บ้านพวกเราเคยนิยมทำออกมาก้าวหน้าตอนหนึ่ง แม้กระนั้นก็หยุดวิวัฒนาการไปซุกซนๆข้างหลังสมัยของหนัง ปรัชญา ปิ่นปักผมแก้ว และก็ พันท้องนา ฤทธิไกร จบลงแล้วขาดผู้สืบสกุลรวมทั้งนักลงทุนที่มีบารมีเพียงพอ แถมฉากแล้วก็วิถีชีวิตคนอินโดหลายชนิดก็ไม่ได้มีความแตกต่างจากบ้านพวกเราเลย เหมือนขนาดที่ว่าเอาดาราไทยไปแทนดาราหนังอินโดได้แบบก๊อปปี้แล้ววางเลย ได้แก่ แบงค์ ปวริศร์ มงคลวิเศษ เป็น โตปัน น้าค่อม หรือ ยัด ชัยโสโร เป็น เจงเก๋ ตำหนิชา กันติเตียนชา ชุมมะ เป็น อัลฟ่า เบสท์ ณัฐสิทธิ์ โกฏิจิตวนิชย์ เป็น เปลอร์ แล้วก็ ไม่กซ์ เพทาย วงษ์คำเหลา เป็นมือสังหารตัวร้าย
การกลับมาในซีซันที่ 2 ของ ‘Alice in Borderland’ ที่ทิ้งระยะห่างจากเดิม 2 ปีโอกาสนี้ไม่เพียงแต่เป็นการกลับมาสืบต่อการบรรลุเป้าหมายที่ Netflix หวังกลับมาโกยยอดสมาชิกเข้าบริการสตรีมไม่งตนเองแค่นั้น แม้กระนั้นยังราวกับการกลับมาพิสูจน์เลื่อมใสของผู้ชมต่อซีรีส์แนวเซอร์ไววอล (Survival) ของประเทศญี่ปุ่นที่ได้ฐานมาจากมังงะสุดได้รับความนิยมหัวข้อนี้ ที่สำคัญเป็นการประเมินดวงใจผู้ผลิตเองเช่นเดียวกันว่าสุดท้ายจะเลือกเดินทางไหนระหว่างหักดิบตอนสุดท้ายมังงะเพื่อได้สร้างถัดไปเรื่อยแล้วก็เสี่ยงกับการทำลายเชื่อถือผู้ชมหรือจะยอมจบแบบมังงะที่เล่นเอาผู้ชมอยู่ในอาการ ‘ตับพังทลาย’ อย่างหลีกเลี่ยงมิได้
ในซีซันนี้ อาริสุ อุซางิ ระอุอินะ อัน แล้วก็ชิซึยะ 5
เพลยเยอร์ที่เกมมรณะยังคงจำเป็นต้องเอาชีวิตรอดในเกมที่ยากขึ้นและก็โหดเหี้ยมหินขึ้น movies hd free โดยเฉพาะอย่างยิ่งเหตุการณ์ที่ขู่เข็ญให้พวกเขาจำเป็นต้องแยกจากกันเพื่อหนีการตามล่าจากมือสังหารมหารอยดำเป้าหมายปลิดชีพเพลยเยอร์ทุกคน แล้วก็ในเวลาเดียวกันผู้เล่นใหม่อย่าง อากาเนะ ที่หลงเข้ามาในเกมมรณะครั้งนี้ก็เสมือนตัวพิสูจน์ความข้องเกี่ยวระหว่างอาริสุกับอุซางิ ก่อนที่จะพวกเขาจะได้คำตอบว่าดินแดนซึ่งมีแต่เกมเหี้ยมโหดอำมหิตนี้โดยความเป็นจริงแล้วยังมีโลกความเป็นจริงที่สงบเหลือให้พวกเขาได้กลับไปหรือเปล่า
สำหรับเพื่อการเดินเรื่องถ้าเกิดให้กล่าวแบบสปอยล์ต่ำที่สุดข้าวของเครื่องใช้คำว่าผู้ผลิตดูเหมือนให้เกียรติ ฮาโระ อาโสะ ผู้เขียนเรื่องของมังงะมากมายๆขอรับ โดยเก็บครบในหัวข้อที่อาโสะเพียรพยายามบอกกล่าวในต้นฉบับมาแบบไม่มีบิดพลิ้ว ซึ่งโน่นหมายคือตอนสุดท้ายซีรีส์สุดบีบหัวใจแต่ว่าก็อาจก่อให้ผู้ชมเล็กน้อยเมินหน้าหนีกับการเล่นท่าจบอย่างนี้ไม่น้อยแน่ๆครับผม โดยเหตุนั้นในช่วงเวลาที่ 8 ของซีรีส์น่าจะเป็นในตอนที่ผู้ชมดูด้วยจิตใจอันป่วนปั่นที่สุดแล้วก็เป็นมาตรชี้วัดได้เลยว่าคุณถูกใจซีรีส์ชุดนี้จริงๆหรือไม่
แต่ว่าถ้ายังไม่ต้องกล่าวถึงตอนสุดท้าย
สิ่งที่ ‘Alice in Borderland’ ซีซันนี้ทำเป็นดีเยี่ยมแล้วก็ปรับปรุงแก้ไขมาจากซีซันก่อนเป็นเกมที่เอามาเล่นแต่ละตอนมีจำนวนที่พอดิบพอดีทั้งยังในด้านเกื้อหนุนการเล่าเรื่องและก็เพิ่มความระทึกให้ซีรีส์เอง ดีกรีความอำมหิตที่มากขึ้นก็มาพร้อมแง่คิดดีๆที่ถูกแอบแฝงอยู่ในเกมแต่ละเกม โดยยิ่งไปกว่านั้นเกมแรกของซีรีส์ที่เป็นการเข้าไปประจันหน้ากับคิงที่สวมบทบาทโดย โทโมฮิสะ ยามาชิตะ หรือผู้หญิงสมัย 90s รู้จักในชื่อ ยามะพี นี่ขอเตือนผู้หญิงเลยว่าให้หาทิชชู่มาตระเตรียมเช็ดน้ำลายได้เลยเนื่องจากนักแสดงนี้โก้สลัดแถมไม่สวมเสื้อผ้าด้วย กระนั้นในตอนสุดท้ายเกมก็ยังไม่วายทิ้งข้อคิดเตือนใจดีๆให้ผู้ชมได้ดูดซึมกลับไปก่อนพบเกมใหม่ในตอนหน้าอีกด้วย
อีกส่วนที่นับว่าเป็นไฮไลต์สำคัญเป็นในซีซันนี้จะเริ่มเจาะลึกประเด็นจิตวิทยาผู้แสดงเยอะขึ้นเพื่อคำตอบในตอนสุดท้ายของซีรีส์ โดยยิ่งไปกว่านั้นผู้แสดงอาริสุ ที่พวกเราเริ่มมองเห็นมุมมองอื่นๆนอกเหนือจากการเป็นโปรเพลย์เยอร์ความปรารถนาหมู่บ้านแล้วผู้แสดงที่ถูกกำหนดให้เป็นดารานำชายอย่างเขากลับเบาๆเปิดเผยรอยแผลในจิตใจครั้งละนิดๆซึ่งโน่นทำให้ เคนโตะ ยามาซากิ ได้ได้โอกาสแสดงประสิทธิภาพในฐานะดาราอย่างมากและก็เขาก็ปฏิบัติหน้าที่ได้เยี่ยมเสียด้วย
Beartai Buzz รีวิวซีรีส์ Alice in Borderland
อีกหนึ่งผู้แสดงที่มีประเด็นน่าดึงดูดไม่น้อยเป็น ยูริ ซึเนมัตสุ สาวสวยที่จำต้องมารับบทอากาเนะที่เสียขาไปจากการต่อสู้เอาชีวิตรอดผู้แสดงใหม่ที่แม้ว่าจะมีเวลาบนหน้าจอไม่กี่ตอนกลับทำให้ผู้ชมจำรวมทั้งจับใจอีกทั้งการแสดงในซีนดราม่าแล้วก็ความโก้ในมาดสาวขาเหล็กแม่นธนูที่คงจะลำพองใจชายหนุ่มๆไปเต็มๆ
อีกข่าวดีที่จำต้องบอกชายหนุ่มๆก็คือในซีซันนี้พวกเราจะได้มองเห็นนักแสดง ลุกอินะ ของ อายะ อาซาฮินะ สาวหรูน่าหลงใหลที่ยังคงสวมบิกีนี่ฟ้าท่อนบนกับยีนส์รัดรูปลากหัวใจอย่างเดิม เสริมเติมเป็นครั้งนี้พวกเราจะได้มองเห็นน้องมากขึ้นเรื่อยๆแล้วก็ชักชวนหลงเสน่ห์มากเพิ่มขึ้นนั่นเองขอรับ ส่วน ทาโอะ ซึจิยะ ในบทอุซางิ ครั้งนี้ก็ได้ได้โอกาสโปรยปรายเสน่ห์ชายหนุ่มๆแล้วก็มีบทโรแมนติกเพิ่มขึ้นเรื่อยๆด้วยครับผม
อีกจุดที่จำต้องดูเป็นงานโปรดักชันนี่แหละนะครับ โดยในซีซันนี้เกมจำนวนมากมักใช้ขอบเขตกว้างและก็ใช้พื้นที่ที่มองใกล้เคียงกับความจริงมาเป็นเบื้องหลังไม่ว่าจะเป็นโรงเก็บของท่าเรือในเกมแรกหรือเรือนจำในเกมด้านหลังๆที่สำคัญมันยังระบุแนวทางสำหรับเพื่อการเล่าได้มีลำดับชั้นในตอนที่ดียิ่งขึ้น ไต่ระดับอารมณ์ผู้ชมให้พีคได้ในทุกเกมจริงๆและก็ขอย้ำว่าในซีซันนี้ความเถื่อนของเกมเป็นทวีขึ้นจากเดิมมากมายจริงๆโดยเหตุนี้ไม่เหมาะที่จะดูตอนกินข้าวครับเตือนไว้ก่อน
เรื่องราวของนิสิตสาวที่แสนจะปกติ แต่ว่างามน่ารักน่าเอ็นดูและก็แอบแซ่บคนหนึ่ง คุณบังเอิญได้เจอกับนายน้อยที่กลุ่มยากูซ่าที่ชีวิตวนเวียนอยู่แม้กระนั้นในโลกเทาๆทั้งสองหลงเสน่ห์กัน รวมทั้งแต่งเรื่องราววาบหวามสุดป่วนปั่น นวดบนเตียงกันบ๊อยบ่อยครั้ง จนกระทั่งทำให้ชีวิตที่แสนปกติของคุณแปรไปจากหน้ามือเป็นหลังมือ
‘ยูริ’ (ฟูมิกะ บาบา) เป็นนิสิตสาวที่อยากตามหารักจริง และก็มีความ movies hd free ต้องการว่าจะได้เจอกับชายหวานใจในตัวตนของคุณ ทำให้คุณตกลงใจไปตามหารักจริงกับสหายสาวในงานงานเลี้ยงและก็มีความรู้สึกว่าจะเจอชายในฝันที่โน่น แต่ถูกชายกรุ๊ปหนึ่งล่วงเกินและก็มานะจะบังคับให้สหายของคุณใช้สารเสพติด ยูริก็เลยสวมวิญญาณสาวโหดเหี้ยม ลูกขึ้นสู้กับเหล่าชายเกกมะเหรก จนกระทั่งทำให้คุณได้เจอกับ ‘โอยะ โทชิโอมิ’ (ยูได ฟุรุกาวะ) นายน้อยกลุ่มยากูซ่าที่มีผลกระทบใหญ่มหึมาในพื้นที่เกือบจะนั้น โอยะยื่นมือเข้ามาช่วยยูริเอาไว้ได้ทันทีทันควัน พร้อมด้วยมอบเสื้อคลุมให้คุณ ด้วยมาดของนายน้อยที่กลุ่มยากูซ่าที่โก้บาดใจ
เขาพอใจคุณนับตั้งแต่นั้น ด้วยเหตุว่าตลึงในความอาจหาญบ้าระห่ำของสาวน้อย แต่ว่าสาวน้อยนางนั้นนี่สิ กำลังจะหลงใหลเขาโงหัวไม่ขึ้นเร็วนี้ๆ เนื่องจากเพียงแค่ประโยคแรกที่เขาฝากไว้ในคราวที่เจอหน้ากันอีกรอบแบบตื่นเต้นสมศักดิ์ศรียากูซ่าขาโหดเหี้ยม ก็ทำเอาคุณใจเต้นปึงปังอย่างยิ่งจริงๆ “คราวต่อไปฉันจะจูบคุณให้เจ็บแปลบไปถึงมดลูกเลย” OMG! อันธพาลเขาจีบผู้หญิงกันแบบนี้เลยเรอะ
Yakuza Lover : หรือในชื่อไทย ‘รักอันตรายกับนายยากูซ่า’
เป็นการแคสติ้งผู้แสดงที่เกือบจะถอดออกมาจากมังงะเลยก็ว่าได้ แต่ว่าส่วนตัวโอยะเพียงแค่นั้นนะ เรียกว่าราวกับแล้วก็ใช่อย่างยิ่งจริงๆถึงจะโก้เก๋แล้วก็แยบคายไม่เท่าในมังงะเลยก็ตาม ในประเด็นนี้พวกเราจะได้เจอกับความรักของสองวัยรุ่นที่ไม่น่าจะโคจรมาเจอกันได้ แม้กระนั้นเมื่อมาเจอกันทีไรเตียงนุ่มๆก็ไม่ค่อยจะว่างเลยสักครั้ง เพราะเหตุว่าบิดาผู้แสดงนำชายสุดกร้าวหัวใจของพวกเรานั้น อีกทั้งรักรวมทั้งหลงสาวยูริเหมือนกับอะไรดี แล้วก็นอกเหนือจากความวิปลาสบิ่นในฐานะยากูซ่าแล้ว ความใจร้อนประเภทที่กลัวว่าทุกๆวันจะเป็นวันสุดท้ายของชีวิต ก็ทำให้เขาพร้อมจะหาประโยชน์ความสำราญเอาจากเธอครั้งใดก็ตามพบกัน
อารมณ์ทำนองว่า ชีวิตของยากูซ่าน่ะห้อยอยู่บนด้าย จะตายวันตายพรุ่งก็ไม่รู้เรื่อง ดังนั้นพวกเรามาแซ่บกันเถิดคุณคะ ฉะนั้นขณะที่มีก็เลยทุ่มเทให้กับริมฝีปาก ร่างแและความจิ้มลิ้มของยูริ แม่สาวอาโนเนะสุดเร่าร้อนคนนี้ ที่เพียงแค่เป็นของโอยะเพียงแค่ครั้งเดียวก็ตกลงใจที่จะเป็นแฟนมาเฟีย จะเสี่ยงตายแล้วก็อันตรายมากเพียงไรก็ยอมละวะ ถ้าหากจะแซ่บขนาดนี้ละก็ แม้กระนั้นหากจะเปรียบเทียบความแซ่บของยูริในซีรีส์กับยูริในมังงะแล้วละก็ มังงะขาดลอยจ้ะ เธอลายเส้นขาวดำคนนั้น คุณแซ่บเวอร์กว่าในซีรีส์มากจริงๆ
บทสนทนาที่บาดตา เนื่องจากถอดจากมังงะมาทุกกระแบะมือ
การดูซีรีส์หัวข้อนี้ทำให้นักเขียนจำต้องไปพบมังงะมาอ่านให้มันสิ้นเรื่องสิ้นราว เนื่องจากสงสัยอย่างยิ่งว่าบทสนทนานี่มันบอกกันอย่างงี้จริงๆเรอะ และจำต้องขำก๊ากมากยิ่งกว่าตอนมองซีรีส์เข้าไปอีกว่า พ่อคุณเอ้ย บิดาถอดเอามาทุกไดอะล็อกเลยนี่หว่า เรียกว่าเป๊ะปังไม่มีข้อบกพร่อง บางครั้งอาจจะสุภาพอ่อนโยนรวมทั้งค่อยกว่าในมังงะนิดหนึ่ง แต่ว่าก็เป็นเพียงแต่การตัดบางคำที่ดูเหมือนจะล่อแหลมออกไปเพียงแค่นั้นล่ะ แล้วก็คำกล่าวจัดจ้าพวกนั้นก็พรูออกมาจากปากบิดายากูซ่าสุดโก้ ที่ไม่เคยทราบว่าไปค้นหาคำบอกเล่าอย่างนี้มาจากไหน เนื่องจากว่ามันช่างย้อนยุคซะอย่างมาก
ก็เข้าทางกับธีมของเรื่องเขาละจ้ะ เนื่องจากซีรีส์ประเด็นนี้เป็นโรแมนติกดราม่า ที่นำกลุ่มด้วยความคอมเมดี้ซะมากยิ่งกว่า แน่ๆว่าซีรีส์ได้ใส่สาระความรักของสาวนิสิตปกติ กับยากูซ่าที่เสี่ยงตายไม่เว้นทุกๆวันเอาไว้ด้วย ว่าเขาแล้วก็คุณจะฝ่าฟันมรสุมไปร่วมกันอีท่าไหน แต่ว่าด้วยความเป็นประเทศญี่ปุ่นแล้วก็ปรับเปลี่ยนมาจากมังงะสำหรับคนแก่ที่มีฉบับรวมเล่มทั้งสิ้น 11 เล่มจบ แล้วก็สร้างสถิติยอดจำหน่ายมากยิ่งกว่า 4.5 ล้านเล่ม ฉากแซ่บๆที่จัดมาเสิร์ฟจำพวกที่ฉากเว้นฉากในฉบับซีรีส์ ก็เลยได้การฮามากกว่าความฟิน เนื่องจากว่าจะให้หวือหวาอย่างในมังงะมากมายก็น่าจะมิได้ ผลก็ออกมาเป็นความฮาแบบญี่ปุ๊นประเทศญี่ปุ่นอย่างที่มองเห็น
กลิ่นของละครเวทีที่จัดเต็มอยู่ในงานโปรดักชัน
ความไม่ธรรมดาและก็การโชว์โลโก้ความเป็นประเทศญี่ปุ่นที่คมชัดอยู่ในหัวข้อนี้ เห็นจะเป็นงานโปรดักชันที่ประดุจมองละครเวทีสลับกับซีรีส์ประเทศญี่ปุ่นสมัย 90’s ก็ไม่ปาน การใช้เสียงซาไม่เซ็งแล้วก็เสียงอุปกรณ์สำหรับเล่นดนตรีโบราณชิ้นอื่นๆเป็นเสียงประกอบในตอนคั่นรายการ หรือในฉากที่มีการแสดงอารมณ์ความรู้สึกแบบทันทีทันควัน ยิ่งส่งความรู้สึกให้ระลึกถึงซีรีส์ประเทศญี่ปุ่นในสมัยนั้นขึ้นมาในทันที บวกกับการวางแบบของฉาก แสงสว่าง สี ที่ทำให้มองเห็นศิลป์การนำเสนอที่แปลเป็นประเทศญี่ปุ่นออกมากางให้มองกันแบบจะๆโดยยิ่งไปกว่านั้นฉากเข้าพระเข้านางที่แทนความรัก ความซาบซ่านของวัยรุ่นด้วยต้นซากุระ ประเภทที่ขนมาทั้งยังต้นกันอย่างยิ่งจริงๆ
การแทนความดุเดือดและก็ความโก้เหนือคำบรรยายด้วยหมอกควันและก็แบ็กกราวด์สีดำ เช่น ‘ฮอนโก ทาเคชิ’ เผยตัว แล้วก็ใช้สีแดงย้อมทั้งยังฉากในขณะที่เกิดเหตุราวตื่นเต้น บีบคั้น หรือในยามที่ใครบางคนคิดแผนเลวทรามขึ้นมาได้ เป็นการพรีเซนเทชั่นแทนอารมณ์ที่ให้ความรู้ความเข้าใจสึกคล้ายกับว่ากำลังมองละครคาบูกิ หรือละครเพลงจีนสักเรื่องหนึ่ง บอกเลยว่าความรู้สึกนี้พวกเราสามารถรับทราบได้แบบไม่ต้องมานั่งคิดให้เสียเวล่ำเวลาเลยจ๊ะค่ะ การถ่ายทอดของซีรีส์จะก่อให้พวกเราสัมผัสบรรยากาศอย่างงั้นได้ในทันทีทันใดที่ได้รับดูกันอย่างยิ่งจริงๆ
แอ็กติ้งผู้แสดงที่เสริมให้เรื่องราว เข้มข้นขึ้น
ในเมื่อซีรีส์พรีเซนเทชั่นมาในวิธีการแบบนี้แล้ว movies hd free ก็แน่ๆเลยว่าแอ็กติ้งของดารานั้นจำเป็นต้องออกมาในแบบ โอเวอร์แอ็กติ้งอยู่แล้วละจ้ะ แต่ว่าในความโอเวอร์นั้นไม่มีคำว่าล้นจนถึงเกินเบอร์อยู่ในนั้นเลย ถ้าหากแต่ว่ามีความชอบธรรมชาติแล้วก็สร้างอารมณ์ขันให้ได้เดี๋ยวนั้นแบบไม่จำเป็นที่จะต้องใช้มุกโบ๊ะบ๊ะให้เสียเวล่ำเวลา โดยเฉพาะอย่างยิ่งในบทของ ‘โจโกะ’ (ชิสุกะ นากามูระ) นางอิจฉาของเรื่องเป้าหมายจะงับนายน้อยโอยะเอาไปรับประทาน ขนาดทายาปลูกเซ็กส์หวังให้เขาทนไม่ได้ แต่ว่าหาใช่เช่นนั้นไม่กลับจำต้องไม่ถูกแผนจนถึงฝันค้าง การชักสีหน้าท่าทาง การจัดระเบียบปฏิบัติท่าทีจำเป็นต้องพูดว่าเป๊ะปังรวมทั้งเล่นใหญ่เล่นล้น จนกระทั่งยืนอยู่ปากซอยก็ยังเห็นได้ชัดเลยจ๊า บอกเพียงนี้
บทนี้ชิสุกะเล่นออกมาได้สมหน้าที่รวมทั้งน่าดูกว่าตัวโจโกะในมังงะ เนื่องจากว่าฉบับมังงะนักแสดงตัวนี้น่าสยดสยองมากมาย หากหวังจะงับเพศชายสักคนก็ไม่น่าจะมีเพศชายคนไหนกันแน่รอดเงื้อมมือของคุณไปได้แน่นอนและไม่ก็แค่ผู้แสดงตัวนี้แค่นั้นที่เล่นใหญ่อยู่เสมอเวลา แต่ว่าเป็นผู้แสดงตัวหลักทุกคนในเรื่อง ซึ่งก็นับได้ว่าไม่เว้นแม้กระทั้งนางเอกที่จะใส่จริตเหนียมอายเกินเบอร์ประดุจนางเอก AV ที่ขี้อายทุกทีท่า แม้ว่าจะทานอาหารรสจัดกันไปกี่ชูและก็ตาม
ในจุดนี้จะไม่เหมือนกับมังงะพอเหมาะพอควร นางเอกในมังงะจะเป็นยูริที่ดึงดูดใจ เย้ายวนแล้วก็ขอของกินรสจัดจากโอยะอย่างไม่เหนียมอาย แต่ว่ายูริคนนี้คุณช่างมีจริตที่น่าถนอม แล้วก็น่าตีเผียะๆเพราะว่าช่างกระมิดกระเมี้ยน แม้กระนั้นก็ไม่บางทีอาจยับยั้งใจตนเองได้ สร้างความน่าหมั่นเขี้ยวแบบสาวประเทศญี่ปุ่นที่พวกเรารู้จักดีได้อย่างดีเยี่ยม ก็ถือได้ว่าเป็นการเสนออีกอารมณ์ที่อีกทั้งยิ้มทั้งยังขำไปในขณะเดียวกัน
หรือแม้กระทั้งบิดาดารานำชายสุดน่ามองที่ไม่ว่าจะเป็นการส่งสายตา การวางท่า เรียกว่าเล็กๆไม่ ใหญ่ๆทำกันเกือบทุกคนไม่มีผู้ใดน้อยหน้า จะมีก็แต่ว่า ‘จิน’ (คิมูระ เคโตะ) สายสืบชายหนุ่มที่เสนอหน้ามาเป็นมารหัวใจ ที่ดูเหมือนจะธรรมดาที่สุดแล้วในประเด็นนี้ การเล่นใหญ่แบบงี้ถ้าเกิดทำออกมาไม่ถึงก็เรียกว่าบ้งกันได้อย่างไม่ยากเย็นแต่ว่ามันไม่เกิดขึ้นกับซีรีส์ประเด็นนี้ เนื่องจากสิ่งที่ทำออกมากลับสร้างความรู้สึกให้ราวพวกเรากำลังมองละครเวทีดีๆสักเรื่อง ที่อารมณ์แล้วก็แอ็กติ้งของผู้แสดงแต่ละตัว เป็นการจัดไปตามหน้าที่ของตนเองอย่างเหมาะควร มากยิ่งกว่าที่จะให้ความรู้ความเข้าใจสึกในด้านลบ
ช่วงนี้ซีรีส์ก็เดินเรื่องมา 5 ตอนแล้วนะคะ กลางทางแล้วละจ้ะแม้กระนั้นผู้แสดงยังออกมาไม่ครบ ยังเหลือ ‘เซไม่โอ’ (มาริโอ้ ระอุโรบาเนะ) คนร้ายของเรื่องที่ยังไม่ออกมาวาดลวดลาย สายประเทศญี่ปุ่นหรือแฟนๆมังงะไม่สมควรพลาดด้วยประการทั้งปวง เหมาะสมที่จะเอาไว้มองในวันอิดโรยๆมองหัวข้อนี้จะชื่นบานขึ้นมาโดยทันที มิได้ขำปอดโยก แต่ว่าฮาได้ทุกฉากจนถึงพวกเราบางครั้งอาจจะเผลอร้องขึ้นมาว่า บ้าๆบอๆดีจังๆซีรีส์อะไรเนี่ย
หนังคลื่นสึนามิกระหน่ำโลกสำเร็จงานสร้างชื่อ ได้เป็นผู้แทนหนัง movies hd free จากประเทศนอร์เวย์ไปเข้าชิงออสการ์ สาขาภาพยนตร์ต่างถิ่น และก็เป็นบัตรผ่านทางให้เขาได้ไปสู่ฮอลลีวูด ได้รับหน้าที่จับบังเหียน Tombraider (2018) ที่เปลี่ยนเป็นทั้งยังภาครีบูต แล้วก็ภาคดับฝันที่จะได้กลับคืนชีพ ลารา คคอยฟต์ ขึ้นมาอีกรอบ ทำให้ผู้กำกับอาทักจำต้องหวนคืนประเทศนอร์เวย์ถิ่นกำเนิด แม้กระนั้นก็ยังคงเล่นใหญ่สไตล์เดิม ครั้งนี้ไม่เล่นกับอุบัติภัยธรรมชาติล่ะ แม้กระนั้นเล่นกับยักษ์จริงๆเลย ด้วยการถือเรื่องราวของ โทรลล์ ยักษ์ในตำนานฝรั่ง ให้มีตัวตนจริงๆมาบุกเมืองกันไปเลย ไม่มีการเปิดเผยว่ารอบนี้ใช้ทุนสร้างไปเท่าไร แต่ว่าจากหน้าหนังที่มองเห็นอีกทั้งงานซีจี รวมทั้งโปรดักชันที่เป็นสเกลใหญ่ก็คงจะไม่น้อยละ
ผู้กำกับ คอยร์ อาทัก (Roar Uthuag)
ก็จัดว่าคณะทำงานอุตสาหะเสาะหาไอเดียที่แปลกใหม่มาเล่น เวลาที่ dewapokerpulsa ฮอลลีวูดพากันสร้างภาพยนตร์ตัวประหลาดยักษ์ออกมาเยอะไปหมดแล้ว อีกทั้ง ไดโนเสาร์ คิงคอง แล้วก็อดสิลลา เนื่องจากว่าเป็นหนังจากยุโรป ก็เลยเลือกจับ โทรลล์ ยักษ์โบราณในตำนานที่เชื้อชาติตะวันตกรู้จักกันดี ให้มีชีวิตขึ้นมา แล้วออกมาเพ่นพ่านป่วนปั่นเมืองเสียเลย
การเลือกเอาโทรลล์มาเป็นจุดขายนั้นยังไม่บอบช้ำนัก เนื่องจากว่าคนชอบดูหนังฮอลลีวูดก็เคยได้เห็นเพียงแค่โทรลล์ โผล่มาหน่อยๆใน Harry Potter and the Sorcerer’s Stone (2001) เท่านั้น และมาในรูปภาพยักษ์ตัวเขียวเสมือน Shrek เสียมากกว่า จากนั้นก็มี Trollhunter (2010) หนังเชื้อชาติประเทศนอร์เวย์เช่นกัน ที่มาในโทนเอาจริงเอาจัง แต่ว่าออกไปแนวสยองขวัญ เล่นกับรูปภาพที่นำมาจากกล้องถ่ายรูปแฮนด์เฮลด์ โดยเหตุนี้โทรลล์ในอุตสาหกรรมหนังก็ยังจัดว่าแปลกใหม่ แล้วยังรู้จักกันทั่วทั้งโลก แต่ว่าสิ่งที่อาทักยังหนีมิได้ก็คือต้นแบบการเล่าเรื่องที่ยังคงยึดมั่นขนบเดิมๆในหนังตัวประหลาดยักษ์ตลอดตัวเอกที่เป็นนักวิทยาศาสตร์ และก็ตัวร้ายที่เป็นนักการเมืองผู้มีอำนาจ
เปิดเรื่องแบบสูตรสำเร็จ ด้วยการให้โทรลล์ออกมาก่อกวน มีราษฎรใช้กล้องถ่ายภาพโทรศัพท์เคลื่อนที่บันทึกวิดีโอไว้ได้แบบลางๆร้อนไปถึงรัฐบาลต้องตามตัว ดร.โนรา คราวเดอร์มัน นักบรรพชีวิน แปลไทยเป็นไทแก่ตัวยก็เป็น ผู้ที่มีความชำนาญด้านซากสัตว์ดึกดำบรรพ์โน่นล่ะ ก็พอดิบพอดีกันตรงที่ว่า โนรานั้นให้ความสนใจในเรื่องโทรลล์เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว เมื่อคุณตั้งปัญหาว่าซาตานยักษ์ที่ออกมาก่อกวนนี้น่าจะเป็นโทรลล์ คุณก็เลยไปตามบิดาที่เล่าเรียนเรื่องโทรลล์มาชั่วชีวิต มาช่วยเหลือกันไขปัญหาแล้วก็สืบหาโทรลล์กัน
หนังใช้เวลาไม่ถึง 30 นาที ก็เผยโทรลล์แบบให้มองเห็นกันจะๆไปเลย ในประเด็นการวางแบบภาพลักษณ์ของโทรลล์นั้น ถือได้ว่าจุดเด่นของหนังเลย สอดคล้องกับแนวความคิดที่ว่า โทรลล์อยู่รอดมาได้นับพันปี ด้วยการออกแบบให้ผิวร่างด้านนอกของโทรลล์นั้นดูเหมือนกับว่าหิน มีทั้งยังดินรวมทั้งซากไม้ปกคลุม ทำให้น่าเชื่อถือว่าโทรลล์สามารถซ่อนตัวมาได้นานจริง ทำให้ฉากเปิดตัวโทรลล์นั้น น่าประทับใจ แต่ว่าก็โชคร้ายที่พวกเราได้มองเห็นกันไปแล้วในแบบอย่างหนัง เพราะเหตุว่านอกจากนี้ก็ยังมองไม่เห็นมีฉากไหนที่น่าละลานตาอีกต่อไปแล้ว
บทหนังเสมือนสร้างความจำกัดให้กับตนเอง แบบหาทางออกงามๆมิได้ เมื่อเขียนออกมาว่า movies hd free มนุษย์พาความก้าวหน้ามารุกพื้นที่ของโทรลล์ ทำให้โทรลล์เสมือนเป็นผู้แทนของธรรมชาติออกมาร้องเรียน เป็นการวางตำแหน่งให้โทรลล์ไม่ใช่ปีศาจที่เหี้ยมโหดอำมหิต แล้วหลังจากนั้นก็เป็นอีกประเด็นที่มนุษย์อยู่ในสถานะตัวร้ายอีกแล้ว พอเพียงปูทางมาอย่างนี้ โทรลล์ก็เลยมองมีความบริสุทธิ์น่าเห็นใจ โดนมนุษย์ย่ำยี ซ้ำยังมีฉากกองทัพใช้อาวุธหนักจู่โจมโทรลล์ ที่แสดงกริยากรีด เจ็บ เอาละสิ เลือกมาทางนี้แล้วจะไปอย่างไรต่อดี จะให้ผู้ชมเอาใจช่วยข้างไหนดี
พอกำครั้งดภาพลักษณ์ให้โทรลล์เป็นคุณลุงแก่ๆมองน่าเห็นใจ ออกมาเรียกร้องความเที่ยงธรรม ตั้งแต่นั้น หนังก็ไม่เหลือความระทึกอีกต่อไป เนื่องจากพวกเรามองไม่เห็นความน่าสยองในตัวโทรลล์ กระทั่งฉากที่โทรลล์ไล่ล่ารถยนต์ของโนราที่ขับหนีนั้น ก็เสมือนนักแสดงข้างดีไล่หลังนักแสดงข้างดี เชื่อมั่นได้แน่ว่าไม่มีผู้ใดเป็นอะไร อารมณ์มันต่างกับฉากครั้งเร็กซ์วิ่งตามรถยนต์ลิบตาลับ อันนั้นลุ้นกันตีนจิกพื้นเลย หรือฉากที่เด็กน้อยในสวนสนุก ที่ภาพและก็ดนตรีก็เพียรพยายามใบเสร็จรับเงินต์อารมณ์ให้มองระทึก แม้กระนั้นผู้ชมก็ทายใจทางได้แล้วล่ะ ว่าโชคชะตาหนูน้อยจะคืออะไร
บทหนังก็มานะแทรกสอดดราม่า แม้กระนั้นก็ไม่เป็นผล
ทั้งยังในเรื่องความผิดใจระหว่างโนรากับบิดา ที่มีการเปิดเผยให้ผู้ชมทราบดีว่าโนราห่างจากบิดาไปเป็นสิบปี มีการสนทนาถึงหัวข้อนี้และก็ทำความเข้าใจกันได้ข้างในไม่กี่นาที มาเร็วเคลมเร็วมาก ส่วนการสอดแทรกปัญหาถึงวัตถุประสงค์ของโทรลล์ว่าเพราะเหตุไรถึงจะเข้าเมืองหลวง แล้วโนราก็พบร่องรอย รวมทั้งหาคำตอบได้ด้านใน 5 นาที มาเร็วเคลมเร็วอีกแล้ว ยังไม่ทันได้คิดตามเลย ก็ยังดีนะ ที่หนังไม่บากบั่นแออัดยัดเยียดความโรแมนติกพระนางเข้ามาในหนังที่ยาวเพียงแค่ 100 นาทีนี้อีก แม้กระนั้นก็พากเพียรแทรกสอดอารมณ์ขันผ่านตัว แอนเดรีย อิซากเซน เลขานายกฯ ที่เปลี่ยนมาเป็นลูกคู่กับ ดร.โนรา ที่ก็พอเพียงทำให้ยิ้มๆได้บ้าง
รีวิว Lockwood & Co. – วัยรุ่นทำทรงปราบผีสร้างฐานะ มองพอเพียงเพลิดเพลินตกใจแต่ว่าไม่สยดสยอง
พอเพียงถึงช่วงท้าย กลุ่มเขียนบทซึ่งรวมถึง ผู้กำกับอาทักด้วยก็คงจะขบคิดกันหัวแตกว่าจะให้หนังจบอย่างไรดีล่ะ เพราะว่าวางภาพลักษณ์ให้โทรลล์มิได้ดุร้ายไปเสียแล้ว จะใช้อาวุธหนักมาฆ่าก็ดูเหมือนเป็นภาพร้ายแรงทำร้ายจิตใจผู้ชมเหลือเกิน เอาอย่างนี้ล่ะกัน ดังที่มองเห็นในหนังโน่นล่ะครับผม อยู่รอดมาได้เป็นพันปี
หนังยังอุตส่าห์จบแบบให้ความคาดหมายว่าจะมีภาคต่อด้วยนะ ดูท่าแล้วคงจะหยุดเพียงแค่ภาคแรกนี่ล่ะ ถ้าเกิดมองหน้าจอใหญ่ๆในโรง บางครั้งอาจจะเพิ่มอรรถรสได้ขึ้นมาอีกหน่อย แต่ว่าการดูบนหน้าจอเล็กๆที่บ้านอย่างนี้ กับหนังไม่มีซึ่งความแปลกใหม่ บทเดินตามวิถีเดิมๆทดลองหา Troll Hunter มองนะครับ สนุกสนานกว่ามาก
และต้องบอกว่าด้วยเงื่อนไขที่หนังตั้งใจจะกลายเป็นหนังแอ็กชันคอมเมดี้ประจำเทศกาลคริสต์มาสเลยอนุญาตให้มัน ‘เล่นง่าย’ ได้หลายท่าทั้งการไม่ต้องบอกที่มาที่ไปว่าทำไมเจสันกับลินดาถึงมีปัญหากันตรง ๆ หรือกระทั่งการปูที่มาที่ไปของคาแรกเตอร์ที่หนังเลือกข้ามไปเป็นการบรรยายถึงคุณลักษณะเด่น ๆ ให้คนดูเข้าใจง่าย ๆ เช่นเจสันดูเป็นคนไม่เอาถ่าน และมักแพ้แม่ตัวเองเสมอ ลินดาเป็นสาวแกร่งและมีความเป็นผู้ใหญ่มากกว่าส่วนทรูดี้แค่เป็นสาวน้อยเด็กดีประจำบ้านที่เชื่อใน ซานตา คลอส
แต่กระนั้นก็ต้องยอมรับว่าการที่มันเลือกจะบอกเล่าคาแรกเตอร์อย่างผิวเผินเองก็ช่วยให้หนังเอาเวลาไปดีไซน์ฉากแอ็กชันและมุกตลกต่าง ๆ ให้หนังดูสนุกไปทั้งเรื่องซึ่งก็ต้องชม เดวิด ฮาร์เบอร์ ที่มารับบท ซานตา คลอส นี่แหละครับที่ได้บทส่งเสริมแล้วเขาก็ไม่ทำให้เสียดายของเล่นฉากแอ็กชันก็มัน มุกตลกก็เจ๋ง เป็นคนที่โดดเด่นที่สุดในเรื่องจริง ๆ และยิ่งได้มาปะทะกับ จอห์น ลีไกวซาโม ที่เพิ่มสีสันให้หนังในบทหัวหน้าโจรแล้วก็ยิ่งทำให้หนังสนุกขึ้นไปอีก